ประวัติความเป็นมาของบริษัท

2566

ระหว่างปี

  • บริษัทได้จัดตั้งโครงการร่วมลงทุนระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง (Employee Joint Investment Program-EJIP) โดยมีมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จํากัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ได้มีการอนุมัติและกําหนดระยะเวลาโครงการร่วมลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2561 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 ซึ่งเป็นโครงการลงทุนซื้อหุ้นสะสมของบริษัทเป็นรายงวด เพื่อเป็นรูปแบบหนึ่งของการให้ผลตอบแทนกับพนักงานของบริษัท
  • จัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท ซับเทอร่า จํากัด ลักษณะธุรกิจ ผลิตและจําหน่ายอุปกรณ์ท่อระบายน้ําใต้ดิน สายไฟและสายสื่อสารใต้ดิน
2565

ระหว่างปี

  • ลงทุนร่วมกับ บริษัท เดอะ บับเบิ้ลส์ จำกัด ซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติม เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิต
  • ลงทุน ติดตั้งระบบ Solar Rooftop ขนาด 1.73 MWp เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน และช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้า เพิ่มเติม
2564

ระหว่างปี

  • ลงทุนร่วมกับ บริษัท เดอะ บับเบิ้ลส์ จำกัด ซื้อเครื่องจักร เพื่อเพิ่มการผลิตและขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง
  • จัดตั้งบริษัทย่อย บริษัท ซับเทอร่า จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ท่อระบายน้ำใต้ดิน สายไฟ และสายสื่อสารใต้ดิน
2563

เดือนกันยายน

  • บริษัทได้ลงทุนกับบริษัท เดอะ บับเบิ้ลส์ จำกัด ลักษณะธุรกิจ ผลิตขึ้นรูปทุ่นลอยน้ำวางแผงโซล่าเซลล์ พร้อมออกแบบติดตั้งระบบโซล่าเซลล์และจำหน่าย
2562

ระหว่างปี

  • มีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงและกำกับดูแลกิจการ และได้แต่งตั้งนายพีรพันธ์ จิวะพรทิพย์ เป็นประธานคณะอนุกรรมการบริหารความเสี่ยงและกำกับดูแลกิจการ โดยได้รับการอนุมัติแต่งตั้งจากที่ประชุุม คณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2562
2561

ระหว่างปี

  • นายขวัญชัย ณัฏฐ์เศรษฐ์ได้ลาออกก่อนครบวาระ เนื่องจากเกษียณอายุโดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 ซึ่งคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนได้เสนอแต่งตั้ง นายพีรพันธ์ จิวะพรทิพย์ เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการแทน โดยมีมติอนุมัติจากการประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 4/2561 เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2561
  • มีการใช้สิทธิในหุ้นสามัญของกรรมการและพนักงาน (ESOP-W1) ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2561 จำนวนทั้งหมด 1,068,618 หุ้น (ราคาหุ้นละ 1.2397 บาท) เป็นมูลค่า 1,324,765.65 บาท
2560

ระหว่างปี

  • เปิดดำเนินการ บจก.คอมโพสิท เอเชีย ในเดือนกรกฎาคม
  • คลังสินค้าก่อสร้างเสร็จ และเริ่มใช้งาน ในเดือนมกราคม
  • มีการใช้สิทธิในหุ้นสามัญของกรรมการและพนักงาน (ESOP-W1) จำนวนทั้งหมด 4,384,298.00 หุ้น (ราคาหุ้นละ 1.2397บาท) เป็นมูลค่า 5,435,215.00 บาท
2559

ระหว่างปี

ขยายคลังสินค้า เพิ่มเติมขึ้น 5,000 ตร.เมตร เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ และกำหนดแผนการเพิ่มกำลังการ ผลิตในปี 2560

การ EXERCISE WARRANT (COLOR-W1) มูลค่าเท่ากับ 1,771 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 5,488.86 บาท และ EXERCISE ESOP-W1 จำนวน 972,563 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 1,205,628.81 บาท

จัดเตรียมโครงสร้าง บ.คอมโพสิทเอเชีย จำกัด เพื่อรองรับกำลังการผลิตส่วนขยายในปี 2560

2558

ระหว่างปี

บริษัทฯ และบริษัทย่อยบันทึกค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นอันเนื่องด้วยโครงการใบสำคัญแสดงสิทธิ ESOP-W1 เป็นจำนวนเงิน 3.2 ล้านบาท (คำนวณมูลค่ายุติธรรมโดยประมาณ ณ วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิของสิทธิซื้อหุ้นแต่ละสิทธิที่ออกเท่ากับ 0.64 บาท คำนวณโดยใช้แบบจำลองการกำหนดราคาสิทธิตามแบบจำลองของ Lattice ด้วยข้อมูล ราคาหุ้น ณ วันที่กำหนดราคามีมูลค่า 1.42 บาท ราคาใช้สิทธิมีมูลค่า 1.2397 บาท ความผันผวนที่คาดหวังร้อยละ 42.06 ความคาดหวังอัตราการจ่ายเงินปันผลร้อยละ 1.18 อายุสัญญา 3 ปี 7 เดือน และอัตราดอกเบี้ยปลอดความเสี่ยงร้อยละ 2.85 ซึ่งแสดงเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานพร้อมกับรับรู้ “สำรองส่วนทุนจากการจ่ายโดยใช้หุ้นเป็นเกณฑ์” ในส่วนของเจ้าของด้วยจำนวนเดียวกัน

  • ESOP-W1 Exercise 882,721 หุ้น (หุ้นละ 1.2397)
  • เป็นมูลค่า 1,094,310 บาท
2557

มิถุนายน

บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจากจำนวน 257,083,334 บาท เป็น 652,343,752 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 395,260,418 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท

  • เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ ในอัตรา 1 หุ้นเดิม ต่อ 2 หุ้นใหม่ จำนวน 387,333,334 หุ้น
  • เพื่อรองรับการปรับสิทธิในการใช้สิทธิของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 1 (COLOR-W1) จำนวน 6,052,084 หุ้น
  • เพื่อรองรับการปรับสิทธิในการใช้สิทธิของกรรมการและพนักงานของบริษัท (ESOP) ที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 1 จำนวน 1,875,000 หุ้น

บริษัทฯ ได้ชำระคืนเงินกู้ยืมจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกัน (บริษัทย่อยและ VIV Holding) จำนวนเงินรวม 100 ล้านบาท

2556

มกราคม

บริษัทได้เพิ่มเครื่องจักร และความสามารถในการผลิตเป็น 45,000 ตันต่อปี จากแผนการเพิ่มกำลังผลิตรวม 60,000 ตันต่อปี ณ โรงงานแห่งใหม่

พฤษภาคม

  • บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 193,666,667 บาท เป็น 257,083,334 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 1 จำนวน 48,416,667 หุ้น และการใช้สิทธิของกรรมการและพนักงานของบริษัทที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 1 จำนวน 15,000,000 หุ้น
  • บริษัทได้ซื้อหุ้นสามัญและเพิ่มทุนจดทะเบียนในบริษัท คอมโพสิท เอเชีย จำกัด และบริษัท โพลี โพลีเมอร์ จำกัด โดยจ่ายชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนร้อยละ 25 หรือคิดเป็นจำนวนเงินบริษัทละ 3,750,000 บาท

บริษัทฯ ได้ชำระคืนเงินกู้ยืมจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกัน (บริษัทย่อยและ VIV Holding) จำนวนเงินรวม 100 ล้านบาท

2555

เมษายน

บริษัท โพลีเมอร์ริท เอเชีย จำกัด (บริษัทย่อย) ประกอบธุรกิจประเภทผลิต Compounded Plastic และ Masterbatch เพื่อขายในประเทศ และส่งออกไปต่างประเทศ ได้รับการส่งเสริมการลงทุน จาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ( BOI )

สิงหาคม

บริษัท ได้ย้ายสถานประกอบการจากที่เดิม คือ ซอยที่ดินไทย ถนนเทพารักษ์ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540 มายัง ณ สถานประกอบการใหม่ คือ เลขที่ 858 หมู่ที่ 2 ซอย 1C/1 นิคมอุตสาหกรรมบางปู ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง สมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ 10280